แกงเนื้อกับลูกเหรียง(Beef Curry with Look Riang Seeds)

เหรียง ชื่อวิทยาศาสตร์: Parkia timoriana ชื่ออื่น ได้แก่ กะเหรี่ยง, เรียง, สะเหรี่ยง (ใต้); นะกิง, นะริง (มาเลย์-ใต้); สะตือ (ใต้)เป็นพืชในวงศ์ Mimosaceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30-50 เมตร ไม่ค่อยมีกิ่งก้านที่ลำต้น เปลือกเรียบและหนาสีเทาปนเขียวอ่อน มีกลิ่นฉุน ลักษณะทั่วไปคล้ายสะตอ

ลูกเหรียง หรือ หน่อเหรียง 
มีลักษณะคล้ายถั่วงอกหัวโตแต่หัวจะโตกว่าและมีสีเขียว รสมัน กลิ่นฉุน ได้มาจากการนำเมล็ดในฝักเหรียง ซึ่งจะออกฝักในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปี ในหนึ่งฝัก จะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 20 เมล็ด วิธีการนำไปรับประทานจะนำเมล็ดที่แกะจากฝักไปเพาะในทราย เพื่อให้เมล็ดงอกรากและมีใบเลี้ยงโผล่ออกมาเหมือนกับถั่วงอก ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่า เมล็ดเหรียงนั้นมีเปลือกที่แข็งมากไม่สามารถนำมาบริโภคโดยตรงได้
 เครื่องปรุง :

ขั้นตอนการทำ : 
-นำเนื้อวัวที่หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 3-5 มม. มาเทใส่ภาชนะตั้งไฟ
 - ตั้งไฟให้เนื้อคายน้ำออกมา แล้วค่อยตักฟองเลือดสีน้ำตาลออก
  -ใส่พริกแกงเผ็ดลงไป
   -ตามด้วยกะปิอย่างดี
   -เมื่อพริกแกงเข้าเนื้อ น้ำแห้งลงเล็กน้อยก็ใส่กะทิลงไป
   -ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา และผงปรุงรสเล็กน้อย(หรือไม่ใส่ก็ได้)
   -แล้วต่อด้วยหน่อเหรียง หรือลูกเหรียง ล้างสะอาดลงไป
   -เพิ่มกลิ่นหอมด้วยใบมะกรูด
   -เพิ่มสัสันด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ
   -เมื่อน้ำงวดลง และรสชาติเข้มข้นถึงใจดีแล้ว ก็ยกลงจากเตา
   -ตักพร้อมเสิร์ฟ
   -แต่งหน้าเพิ่มสีสันในชามเสิร์ฟด้วยพริกแดงอีกเล็กน้อย


   -เสิร์ฟทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ




   -หรือเสิร์ฟแบบราดข้าวเป็นเซ็ตอาหารจานเดียว 


   -จากนั้นก็ลงมือได้เลยค่ะ
..... :-P .....

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น